• 0

    สินค้าที่ชอบ

    ไม่มีสินค้าที่ชอบ

  • 0

    ตะกร้า

    ไม่มีสินค้าในตะกร้า

Close

สมัครสมาชิก

Please.
Please.
Please.
Please.
Please.
Please.
Please.
Please.
Please.
Please.
Please.

*สมัครสมาชิกสําหรับผู้ประกอบการ จะต้องมีหนังสือรับรองบริษัทที่ไม่หมดอายุ

ลืมรหัสผ่าน

Please.

Q : วิธีเลือกหลอดไฟ LED ให้เหมาะสมที่สุดกับห้องต่างๆ ในบ้าน

ห้องทุกห้องในบ้านของคุณมีความแตกต่างกัน การจัดแสงมีผลต่อเราในระดับที่ละเอียดอ่อนตั้งแต่ตารางการนอนไปจนถึงพลังสมองหลอดไฟที่ปล่อยคลื่นแสงสีฟ้าจะช่วยให้ร่างกายหลั่งสารซีโรโทนินทำให้เรามีสมาธิ ตื่นตัวและกระตือรือร้นอยู่เสมอในขณะเดียวกันหลอดไฟที่ปล่อยคลื่นแสงที่ไม่ใช่สีฟ้าจะกระตุ้นให้สมองของเราผลิตสารเมลาโทนิน ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย และพร้อมที่จะหลับสนิทในยามค่ำคืน

นอกจากนี้ ยังมีความเข้าใจผิดที่พบกันอยู่ทั่วไปว่าความสว่างของหลอดไฟมีหน่วยเป็นวัตต์ (Watts) แต่ในความจริงแล้ววัตต์เป็นค่าการใช้พลังงาน ส่วนหน่วยของค่าความเปล่งแสงที่แท้จริงนั้นก็คือ ลูเมน (Lumens)

หลอดไฟอุณหภูมิสีต่ำ (2200K – 3000K) ให้แสงโทนอบอุ่นเหมือนอยู่ใกล้ไฟ
หลอดไฟอุณหภูมิสีปานกลาง (4200K) ให้แสงโทนอบอุ่นเหมือนอยู่ใกล้ไฟ
หลอดไฟอุณหภูมิสีสูง (6000K – 6500K) ให้แสงสีขาวโทนเย็นหรือ
แสงสีขาวธรรมชาติที่เรียกว่าเดย์ไลท์


1) การจัดไฟ LED สำหรับห้องนอน

ส่วนใหญ่แล้ว เรามักต้องการให้ห้องนอนของเรามีบรรยากาศที่ ผ่อนคลาย, เงียบและสงบการหลีกเลี่ยงไม่ใช้หลอดไฟที่ให้คลื่นแสงสีฟ้าใน ห้องนอนจะรักษานาฬิกาชีวภาพของคุณไม่ให้ได้รับผลกระทบจากแสง ธรรมชาติที่อยู่นอกห้องซึ่งจะสร้างความสับสนให้กับคุณ อีกทั้งยังช่วยให้ สมองของคุณผลิตสารเมลาโทนินที่จำเป็นต่อการนอนหลับให้สบาย คุณเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือตอนกลางคืนหรือไม่? หากคุณมีโคมไฟ อ่านหนังสือข้างเตียงหรือวางแผนจะซื้อสักหนึ่งอัน ขอให้เลือกพวกที่ให้ แสงโทนสีฟ้า (soft blue) หรือสีธรรมชาติซึ่งจะเหมาะกับโคมไฟสำหรับการ อ่านมากกว่า เพราะสีแสงขาวโทนเย็นจะช่วยให้หน้ากระดาษที่อ่านมี ความคมชัดสูง

ระดับความสว่างที่แนะนำ 300 – 500 ลักซ์ ความสว่างทั่วไปภายในห้องนอน ไม่ควรเกินกว่า 150 ลักซ์
อุณหภูมิสีแนะนำ 6,000K – 6,500K สำหรับโคมไฟอ่านหนังสือ
อุณหภูมิที่แนะนำ 2,200K – 3,000K สำหรับโคมไฟภายในห้องนอน


2) การจัดไฟ LED สำหรับห้องทำงานในบ้าน

ในห้องทำงานของบ้าน เราต้องมั่นใจว่าไฟที่ใช้จะให้แสงสว่างได้เต็ม พื้นที่ทำงาน หลอดไฟที่ให้แสงสีขาวโทนเย็นเลียนแบบแสงเดย์ไลท์ในห้อง ทำงานจะทำให้ร่างกายผลิตสารซีโรโทนินเพิ่มขึ้น ทำให้คุณมีสมาธิจดจ่อ, ตื่นตัวและมีความกระตือรือร้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งของแสงจะต้อง ไม่สะท้อนเข้าหน้าจอคอมพิวเตอร์ของคุณ นอกจากนี้คุณอาจเลือกใช้ โคมไฟ LED แบบตั้งโต๊ะ (Table Lamp) ที่ให้แสงสว่างสำหรับการทำ กิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม

ระดับความสว่างที่แนะนำ 300 – 500 ลักซ์
อุณหภูมิสีแนะนำ 6,000K – 6,500K




3) การจัดไฟ LED สำหรับห้องนั่งเล่น

ห้องนั่งเล่นเป็นสถานที่ยอดนิยมในการรองรับแขก, ทำกิจกรรมเพื่อ ความสนุกสนาน หรือการนั่งพักและผ่อนคลาย แต่ไม่ว่าคุณจะใช้ห้องนี้ สำหรับนั่งดูภาพยนตร์หรือพูดคุยกับเพื่อน ๆ สิ่งสำคัญในการจัดแสงไฟ ในห้องนี้คือต้องผสมผสานการใช้หลอดไฟเพื่อจะได้ปรับให้เหมาะกับ กิจกรรมที่คุณทำ คุณควรจัดแสงไฟให้เหมือนกับที่ใช้ในห้องนอน โดยควร หลีกเลี่ยงการใช้หลอดไฟที่ให้แสงสีฟ้าด้วย เพราะแสงสีฟ้าจะไปกระตุ้นให้มี การสร้างสารซีโรโทนินทำให้เรารู้สึกมีกระปรี้กระเปร่าขึ้น ในห้องนั่งเล่นนี้ การเลือกใช้ไฟราง (Track Light) หรือสปอต์ไลท์จะช่วยให้คุณสามารถ ส่องไฟไปยังผนังเพื่อให้ภาพศิลปะ หรือ ภาพถ่ายครอบครัวโดดเด่นขึ้น รวมถึงช่วยลดแสงจ้าบนจอโทรทัศน์ การติดตั้งไฟสปอต์ไลท์ที่ผนังหรือ เพดานก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีในการกำจัดเงาแสงที่ไม่พึงประสงค์ได้เช่นกัน นอกจากนี้คุณยังอาจใช้หลอดไฟ LED แบบหรี่ได้ กับโคมไฟตั้งโต๊ะเพื่อให้ ได้ความสว่างที่ต้องการ

ระดับความสว่างที่แนะนำ 150 – 300 ลักซ์ ความสว่างทั่วไปภายในห้องนอน
ไม่ควรเกินกว่า 150 ลักซ์
อุณหภูมิสีแนะนำ 2,200K - 3,000K


4) การจัดไฟ LED สำหรับห้องรับประทาน อาหาร

ในเวลาที่รับประทานอาหารมื้ออร่อยกับครอบครัวหรือแขกคนสำคัญ เราย่อมไม่อยากได้แสงที่สว่างจ้าเกินไปหรือแสงที่สลัวจนน่ากลัว และแน่นอน ว่าเราไม่ต้องการอยู่ในที่มืดเหมือนตอนหลับในห้องนอนด้วยเช่นกัน การติดตั้งหลอดไฟแบบหรี่ได้ตรงเหนือศีรษะจะช่วยให้ได้รับความสว่างใน ทุกช่วงเวลาของวันไม่ว่าจะเป็นช่วงอาหารช่วงเช้าจนถึงอาหารค่ำ เราขอ แนะนำให้ใช้แสงโทนอบอุ่นเพื่อสร้างบรรยากาศให้สมบูรณ์แบบ คุณอาจลอง ใช้หลอด LED กับโคมระย้าในห้องอาหารก็ได้ เพราะแสงจากโคมประเภทนี้จะ ให้ความสว่างและสีสันในรูปแบบที่สวยงาม

ระดับความสว่างที่แนะนำ 300 – 500 ลักซ์
อุณหภูมิสีแนะนำ 2,200K - 3,000K




5) การจัดไฟ LED สำหรับห้องครัว

ห้องครัวของคุณนับว่าเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญยิ่ง เพราะพวกเรา หลายคนเริ่มต้นช่วงเช้าของวันในห้องครัวนี้ การใช้หลอดไฟที่ให้แสง โทนเย็นส่องลงบนโต๊ะในขณะที่กำลังเตรียมอาหารเช้าจะช่วยให้เรารู้สึก ตื่นตัวและกระฉับกระเฉง การติดโคมไฟเหนือโต๊ะแบบหรี่ได้ที่ให้อุณหภูมิ สีโทนอบอุ่นก็สามารถสร้างบรรยากาศที่ดีได้เช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ความชอบและรสนิยมส่วนบุคคล

ระดับความสว่างที่แนะนำ 300 – 500 ลักซ์ ความสว่างทั่วไปภายในห้องนอน
ไม่ควรเกินกว่า 150 ลักซ์
อุณหภูมิสีแนะนำ 2,200K - 6,500K


6) การจัดไฟ LED สำหรับห้องน้ำ

ก่อนที่เราจะไปโรงเรียนหรือทำงาน พวกเรามักจะเตรียมความพร้อม ของตัวเองด้วยการส่องกระจกในห้องน้ำ เราจึงต้องการใช้แสงจากทั้ง รอบๆ กระจกและแสงจากบนเพดาน แสงไฟที่สว่างเพียงพอจะช่วยให้คุณ มั่นใจได้ว่าไม่โกนหนวดพลาดหรือแต่งหน้าด้วยสีผิดเพี้ยน คุณควรใช้ โคมดาวไลท์ กับหลอด LED ที่เหมาะสม ที่ติดตั้งอยู่บนเพดาน และที่รอบๆ กระจกทั้งด้านบนและด้านข้าง เพื่อให้ได้แสงในทิศทางที่ครอบคลุมสำหรับ การใช้งาน

ระดับความสว่างที่แนะนำ 100 – 300 ลักซ์
อุณหภูมิสีแนะนำ 3,000K - 6,500K

เนื่องด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันทำให้หลอดไฟและโคมไฟสามารถเปลี่ยนอุณหภูมิสีของแสงได้ในดวง/โคมเดียวกัน หลอดที่สามารถเปลี่ยนอุณหภูมิแสงได้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการใช้งานได้อย่างครอบคลุมทุกจุดประสงค์ อีกทั้งสามารถเปลี่ยนบรรยากาศของห้องได้โดยง่าย ซึ่งทางไฮ-เทคขอแนะนำเป็น หลอดรุ่น LED แสง D/C/W 9W และ หลอด LED Smart Bulb แสง RGB/W 7W